ดูหนังออนไลน์ฟรี youtube

จอห์นวิค3 John Wick: Chapter 3 – Parabellum แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมการรบให้พร้อมสรรพ

John Wick 3: Parabellum ในภาคใหมองหม่นี้ John Wick จำเป็นที่จะต้องถูกคนทั่วทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัว $14 ล้านเหรียญ เนื่องด้วยเขาได้แหกกฎข้อบังคับกลาง โดยการฆ่าคนในพื้นที่โรงแรมของ Continental และยิ่งผู้คนที่เขาฆ่าคือสมาชิกระดับสูง เขาก็เลยจะต้องสู้และฆ่ากับศัตรูรอบด้านเพื่อที่จะหาทางหลบหนีออกมาจากเมืองนิวยอร์ก จอห์นวิค3

นี่คือการเปลี่ยนมาของหนังแอคชั่นที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย และสำหรับท่านที่หลงลืม ๆ (ซึ่งจริง ๆ ทำเป็นนึกไม่ออกหนังตระกูลนี้ยากนะ ภาพจำมันเยอะเลย) ทดลองชมคลิปสรุปภาค 1-2 แบบรวบรัดมาก ๆ จากค่ายสหมงคลนี้ดูก่อนเลย เดี๋ยวจะได้เหลากันยาว ๆ ต่อ

สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อเรื่องภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งตามที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเนื่องมาจากพริ้งช้านานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนกลับไปได้ยันยุคโรมันนั่นเลยแม้จะไร้หลักฐานกระจ่างแจ้ง แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายๆที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เหมือนกันกับชื่อเรื่องภาค 3 ของหนังนั่นเอง

“ถึงแม้หวังตั้งสงบ จงตระเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” เพื่อ จอห์น วิค ภาคนี้ ก็ใช้คำนิยามของกลุ่มคำเด็ดนี้อย่างเด็ดดวงทีเดียว

หนังเล่าเรื่องราวต่อเนื่อง เมื่อ หน้าจอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎข้อบังคับของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎเกณฑ์ของวิคเพื่อที่จะล้างแค้นครั้งนี้ ส่งผลให้สขาดหายเก่าผู้ชมแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) จำเป็นที่จะต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิหน้าจอห์น วิค ออกมาจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ ผลคือนอกนั้นจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั่วทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั่วโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่จำนวนเยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวชั้นสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไม่มีรอยถัดจากนั้นที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีช่วงเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำบัญชาอัปเปหิจะถูกประกาศ เขาก็เลยดิ้นรนสุดชีวิตสำหรับในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเหตุการณ์ของคนรักของเขาถัดไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของหน้าจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมการรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่จึงควรฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อจะกรุยทางไปสนทนากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำบัญชาอัปเปหิเขานั่นเอง

และพูดได้เลยว่าเส้นทางที่หน้าจอห์น วิค เลือกเฟ้นนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้แต่เป็นกองกะโหลกพะเนินเทินทึก อีกทั้งที่ขยายจักรวาลนักฆ่าในเรื่องออกไปกว้างใหญ่ไกลมาก ทั้งพิธีในขนบนักฆ่าที่แปลกประหลาดที่มีมากกว่าตราโลหิตซึ่งถูกใช้ตั้งแต่ภาคที่ 2 เรื่อยๆมาถึงภาคนี้ ทั้งภูมิหลังที่ไม่น่าที่จะได้ทราบของจอห์น วิค ซึ่งน่าแปลกใจทีเดียว ขั้นตอนการสิ้นสุดธรรมสุดแสนเลือดเย็นและเที่ยงธรรมของโลกนักฆ่าผ่านผู้แสดงใหม่อย่าง ตุลาการ (อาเชีย เคท ดิลเลี่ยน – นักทำให้ทราบสาวจาก Orange Is the New Black) ที่ทำเอาผู้ทรงอำนาหน้าจอย่างวินสตันกับ หัวหน้าแก๊งบาวเวรี่ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) แทบปางตายได้ รวมถึงกลุ่มนักฆ่าขั้นพระกาฬที่เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอห์น วิค แบบพลาดนิดเดียวก็เสียวตายได้จริง ๆ ซะที ยังแผ่ไปถึงโลกด้านนอกนิวยอร์กที่เป็นฉากหลักของเรื่องมาตลอด 2 ภาค พวกเราได้ไปไกลถึงแดนทะเลทรายและโรงแรมนักฆ่าที่นอกเหนือจากคอนติเนนทัลด้วย คือหนังขยายไปได้ไกลมาก และอาจเปิดเผยลาสต์บอสของแฟรนไชส์นี้ไว้ด้วย จึงควรติดตามเลย

แอคชั่นประสมประสานศิลปะคุ้มครองป้องกันตัวระยะประชิด ผสม อาวุธปืน ก่อเกิด Gun Fu

หลายครั้งคณะทำงานหนังแฟรนไชส์นี้ได้ใช้คำเรียกแนวศิลปะการต่อสู้ที่ผสมหลากหลายแนวเข้ากับวิธีการใช้อาวุธไม่ว่าจะมีดหรือปืน (หรือแม้แต่ ดินสอ หนังสือ) ซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นเอกลักษณ์ของหนังหน้าจอห์น วิคนี้ว่า Gun Fu ซึ่งเป็นการเล่นคำ Gun ผสมกับ Kung Fu ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแต่ก็นำมาซึ่งการทำให้เห็นได้ชัดภาพขั้นตอนวางแบบการต่อสู้อันสะดุดตาแพรวพเหมือนกับของหนังได้อย่างยอดเยี่ยม (เหมือนเวลาที่ทีมสตั๊นท์ไทยเคยผสมมวยไทยเข้ากันกับยิมนาสติก จนเปลี่ยนเป็นงานเอกลักษณ์ระบือโลกในองก์บากมาแล้ว – งานแบบนี้ล่ะที่น่าความทรงจำ) มันก็เลยเป็นหนังที่พวกเราจึงควรทำการวิจัยทั้งการออกแบบการเขยื้อนตัว แม่ไม้ลักษณะท่าทางต่าง ๆ การดีไซน์ซีนให้ไหลลื่นต่อเนื่อง ตลอดจนการเคลื่อนที่กล้อง การสอดผสานของตัวละครหลักกับทีมสตั๊นท์แมน (และภาคนี้มีเหล่าน้องสัตว์มาเข้าร่วมแจมด้วยทั้ง ม้า ทั้งสุนัข โคตรโหดพูดเลย) มันเลยส่งผลให้จอห์น วิค แปรเปลี่ยนเป็นงานหนังบู๊อ้าง เป็นต้นฉบับเป็นครูให้หนังแอคชั่นรุ่นข้างหลังได้ต่อยอดต่อไปแน่ ๆ

ส่วนของความเดือดนั้น ต้องกล่าวว่า ไม่หยุด ไม่ยั้ง บ้าพลังกันสุด ๆ ขณะพักขาดหายใจมีครับ แต่ณ เวลาไม่ให้หายใจนี่ ลืมตายกันเลยทีเดียว หนังเปิดมาเรียกว่าต่อเนื่องด้วยภาค 2 แทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งชมสองภาคติดกันจะให้อารมณ์หนังเรื่องยาวลำดับ 4-5 ชั่วโมงกันเลย! และขนาดว่าชมแยกภาคพวกเรายังเหนื่อยแทนนายวิคเลย ถ้าดูติดกันอาจจะรับรู้ได้ถึงการหนีตายกายแทบขาดดิ้นของผู้แสดงกันอย่างยิ่งจริงๆ เพราะว่าแต่ละภาคก็อัดฉากแอคชั่นทั้งมือต่อมืออาวุธต่ออาวุธแบบแน่นเอี้ยด ยิ่งภาค 3! นี่ขอกล่าวเลยว่าอะไรที่รู้สึกว่าเยอะในภาคก่อน ๆ ภาคนี้อัดกระหน่ำมากกว่ายาวมากกว่ารัวกว่า มันคือความเดือดแบบไม่ยั้งที่จะบันเทิงพวกเราไปแบบเผลอช่วงเลยทีเดียว ที่สำคัญอัปเกรดด้วยมุกโปกฮาร้ายที่ โหดก็ยังได้ ฮาก็ยังด้วย เป็นสูตรการบรรลุผลที่ดำเนินงานได้ดีมาก! ๆ รื้นเริง ๆ สุดเลย อ่อ และข้อดีงามมาตลอดและอาจจะต้องขอกราบชาบูกันต่อ ๆ ไปคือการออกแบบแสงขั้วตัดในซีนและระหว่างซีนที่จัดเจนหนักหน่วงในเรื่อง Contrast Visual ซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งที่คนทำหนังฮอลลีวู้ดที่เป็นที่ชื่นชอบสูง! จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องด้วยภาพที่ขัด-กระตุ้นการตื่นรู้ของดวงตาผู้ชมนั้นเป็นเทคนิคและวิธีหนึ่งเพื่อหนังแนวนี้เลยทีเดียว และหนัง John Wick ก็เก่งเรื่องนี้แบบจดเลกเชอร์ได้ซีนต่อซีนอย่างยิ่งจริงๆ!

นอกจากตัวหนัง มันยังกล่าวถึงนอกหนังที่สั่นสะเทือนใจ

สิ่งแรกนี่คือหนังที่บูชาคนเบื้องหน้าเบื้องหลังของวงการแอคชั่นอย่างแท้ทรู เป็นที่รู้กันดีว่าคีอานู รีฟส์ให้ความเคารพทีมสตั๊นท์ของหนังที่เขาเล่นอย่างยิ่ง! ถึงขนาดว่าซื้อรถแจกสตั๊นท์แมนในหนัง The Matrix ก็ทำมาแล้ว เขาก็เลยเป็นที่รักของเหล่ายอดฝีมือตัวจริงในยุคนี้ทั้งปวง และหน้าจอห์น วิค! ก็คือหนังที่สะท้อนคุณค่าและตัวตนของหมวดหมู่เขาเหล่านั้นออกมาผ่านคีอานู รีฟส์ด้วย ซุปเปอร์สตาร์นักบู๊และนักแสดงรับเชิญมากมายทั้งยังเห็นได้ชัดชื่อจริงละครและเพียงตัวคลุกเคล้ากันนิรนามต่างร่วมมาบ่งบอกในฉากต่าง ๆ เสมือนไม่มีใครแสดงตัวก็ไม่เป็นไร แต่ขอฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ในแผ่นฟิล์ม ไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายหลักอย่าง ซีโร่ นักฆ่ายอดยุทธร้านค้าซูชิผู้เป็นทาสแมว ทั้งฝีมือก็ไม่ได้ด้อยกว่าหน้าจอห์น วิคเลย ส่อให้เห็นนำโดย มาร์ค ดาคาสคอส ยอดนักบู๊จากหนังเก่าทั้ง! Brotherhood of the Wolf หรืออย่าง Crying Freeman ก็เปลี่ยนเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์น่าความทรงจำจำนวนเยอะที่สุดตัวหนึ่งในตระกูลหนังหน้าจอห์น วิค เหล่าผู้ที่มาเรียนของซีโร่เองก็ได้เหมือนกันยอดฝีมือปันจักสีลัตตัวจริงจากอินโดนีเซีย ซึ่งล้วนเคยฝากฝีมือเอาไว้ภายในหนัง The Raid ทั้งภาค 1-2 มาแล้ว แสดงนำ เอ่ยชื่อไปก็อาจไม่รู้จักทั้ง ยายาน รูเฮียน และ ซีเซป อาริฟ ราห์มาน แต่เขาทั้งคู่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้โลกนี้รู้จักดี อิโก อูไวส์ อย่างยิ่งจริงๆล่ะ!

นอกจากนั้นยังมีสตั๊นท์คู่บุญของคีอานู รีฟส์ที่มาเข้าร่วมเล่นแม้จะแค่ผู้แสดงไร้ชื่อแต่มีฉาก ติดตา อย่าง ไทเกอร์ หูเฉิน! ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บ่งบอกถึงการทุ่มใจให้หนังประเด็นนี้เท่าไร และที่อาจไม่พูดถึงมิได้ ผู้กำกับอย่าง แชด สตาเฮลสกี้ เองก็เกิดและได้โอกาสสำคัญจากคีอานู รีฟส์ ด้วยการร่วมงานในฐานะสตั๊นท์แมนอาชีพในหนัง The Matrix มาก่อนด้วยนั่นเอง! (อีสเตอร์เอ้กเล็ก ๆ คือประโยคที่หน้าจอห์นพูดว่า Guns, Lots of Guns ก็เป็นคำที่ นีโอ ใน The Matrix เคยกล่าวด้วยล่ะ) ซึ่งในหนังถ้าจะไล่ไปก็อาจจะจำเป็นต้องชื่นชมเหล่าตัวคลุกเคล้ากันมาตายทุกตัวจริง ๆ ที่ส่งผลให้หนังโคตรมัน โคตรน่าความจำได้ขนาดนี้!

topgifs