ดูหนังออนไลน์ หนังอินเดีย

ซึ่งเราจะได้ติดตามผ่านสายตาของ มอรา แฟลงคลิน (เล่นบทโดย เอมิลี บีชาม (Emily Beecham)) นักเดินทางสาวที่ได้รับจดหมายแปลกของพี่ชายเกี่ยวกับการทดลองทางจิตของพ่อพวกเขาที่ทำบนเรือโดยสาร แล้วก็คุณยังมีความจำแปลกที่พ่อของคุณปฏิบัติทดลองคุณเช่นเดียวกันกับเป็นผู้เจ็บป่วยโรคทางจิตด้วย มอราจะได้รู้จะกับผู้โดยสารชั้นสูงที่แต่ละคนก็มองดูมีความแปลกในตัวเอง

แต่ว่าแทนที่จะเดินเรื่องไปตามตรรกะเบาๆเรียงร้อยก่ออิฐก่อสร้างบ้านให้เห็นร่างหญิงสาวที่ไม่รู้เดียงสานาม Norma China เบาๆจำแลงจากการเช็ดกสาดหลากสีใส่ผ้าใบสีขาวขุ่นไม่รู้จักจบสิ้นจนกระทั่งแปลงเป็น มาริลิน มอนโร เช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดมินิกกลับจับหัวใจของความหลงไหลอยู่ในวงกตที่ฝัน ที่เสมือนคนสะลึมสะลือไปด้วยฤทธิ์ยาตราบจนกระทั่งไม่เคยทราบว่าอะไรจริงอะไรลวง หรือตัวตนของคุณนั้นเป็นจีนหรือมอนโรกันแน่

นอกนั้นที่ใต้ท้องเรือชั้นขึ้นรถชั้นสาม ก็ยังมีประชาชนธรรมดาที่เก็บเงินทั้งสิ้นในชีวิตมาซื้อตั๋วไปสืบเสาะหาจังหวะใหม่ที่อเมริกา ซึ่งก็เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเช็ดกแบ่งชั้นเลือกปฏิบัติจากลูกเรือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะครอบครัวของ โทฟและก็เครสเตอร์ สองวงศ์ญาติที่บิดามารดาเคร่งศาสนาที่แม้โทฟที่เจ็บท้องแต่ก็ไม่มีหมอคนใดพึงใจจะมาดูให้ แล้วหลังจากนั้นก็เมื่อมีเรื่องมีราวแปลกเกิดขึ้นก็ยิ่งจุดระเบิดอารมณ์ของพวกคนชั้นสาม

ในขณะเดียวกันผู้สร้างก็ไม่ได้ไม่ให้ความสนใจเงื่อนปัญหาที่เป็นจุดขายของงานตัวเอง บรรยากาศของเรือร้างที่ลอยแล่นคู่ไปกับเรือของตัวแสดงนำที่เพียงแต่มองออกไปเมืองนอกหน้าต่างที่พักก็จะแลเห็นเงาทะมึนที่ไม่มีสิ่งมีชีวิต เงียบงข้างหลังของเรื่องที่ถอดนิยายสยองขวัญคลาสสิกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ผสมกับสามเหลี่ยมที่เชิญคิดไปถึงอาถรรพณ์สามเหลี่ยมเบอร์ไม่วดาอยู่เป็นระยะ

ระหว่างที่เหล่าดาราหนังพยายามกล่าวหาจริง สถานะการณ์ความแหลกร้าวระหว่างผู้คนก็ผลักให้ทุกสิ่งทุกอย่างชำรุดทรุดโทรมลงช่วยกดดันให้มวลเรื่องราวไม่ได้มีแค่น่าสงสัยแม้ว่ากลายเป็นเข้มข้น ชักชวนลุ้นระทึกไปด้วยทั้ง ราไม่โรกับอังเฆล สองญาติโกโหติกาที่ดูโครงหน้าไม่มีอะไรร่วมเชื้อสายเดียวกันเลย ให้ลุกฮือกลัวถูกทิ้งให้ตายหนักขึ้น

เสน่ห์ยั่วใจแรกของซีรีส์ Dahmer (2022) เป็นนักเขียนบทและผู้กำกับมือทองอย่าง ไรอัน เมอร์ฟี่ (Ryan Murphy) ที่เคยดูแลซีรีส์ดังมาหลายเรื่องอย่าง American Crime Story, American Horror Story รวมทั้ง The Politician ก็เลยน่าไว้ใจเลยว่า Dahmer ฉบับของไรอัน เมอร์ฟี่จะรับประกันสมรรถนะความระทึกใจไว้อย่างนอน

แล้วก็ถ้าคุณได้รู้เพิ่มว่าหนังประเด็นนี้เลือก “filming” ในสถานที่จริงที่มาริลิน มอนโรเคยดำรงชีวิตอยู่ โดยเฉพาะห้องที่เราได้แลเห็นฉากท้ายที่สุดที่ชีวิตของคุณนั้น ก็คือห้องเดียวกันกับที่คุณจากไปจริงๆมันก็ยิ่งเต็มไปด้วยมวลความรู้สึกล้นหลามที่ยากจะบอกแล้ว อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นหนังมาริลิน มอนโร ที่เป็นมากกว่าแค่เพียงหนังประวัติส่วนตัวอีกเรื่องหนึ่ง

จำเป็นต้องรับสารภาพว่าซีรีส์สร้างเงื่อนในแต่ละตอนได้น่าสนใจ รวมทั้งสื่อผ่านชื่อตอนแต่ละตอนได้อย่างตรงเป้าว่าในตอนนี้จะเอาอะไรมาเป็นกิมไม่กหรือเครื่องใช้กระตุ้นเรื่องราวสำคัญ ไล่ไปตั้งแต่ เรือ เด็กชาย หมอก การต่อสู้ เสียงเรียก พีระมิด ลมพายุ แล้วหลังจากนั้นก็กุญแจ ทำให้ผู้ชมตั้งใจและก็มีสมาธิกับการเดินเรื่องได้ง่ายเข้าไปใหญ่ ซึ่งก็บางทีก็อาจจะเพื่อจัดการกับปัญหาหลายๆอย่างสำหรับการมองดูให้ไม่ต้องถึงขนาดเอากระดาษปากกามารอทดแบบตอนวาดแผนผังครอบครัวใน ‘Dark’

รีวิว Dahmer

ไทยเกอร์เชิญชวนอ่าน รีวิว Dahmer (2022) ของ ไรอัน เมอร์ฟี่ ในชื่อ DAHMER Monster: The Jeffrey Dahmer Story ซีรีส์เศร้าโศกสร้างขึ้นจากคดีดังในปี 1991 มีชายหนุ่มนาม เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ใช้เวลากว่า 10 ปีสำหรับการคิดแผนการฆ่าเด็กชายวัยรุ่นรวมทั้งเด็กวัยหนุ่ม รวมเหยื่อผู้ที่ได้รับเคราะห์ทั้งหมดทั้งปวง 17 รายเกอิชากับหญิงรับใช้ที่ดูแปลกที่ผิดทาง ลูเซียงกับคลีมองซ์ คู่ข้าวใหม่ปลามันที่ดูปราศจากความรักต่อกัน อื่นๆอีกมากมาย

แล้วก็การเกิดที่ว่าก็คือการติดต่อลึกลับของเรือโพรมีธีอุสที่มีข้อมูลว่าหายไปเป็นเวลานานกว่า 4 เดือนแล้ว และเมื่อกัปตันเรืออย่าง ไอค์ (เล่นบทโดย อันเดรียส เพียตช์แมนน์ (Andreas Pietschmann) จาก ‘Dark’) ตกลงปลงใจช่วยเหลือเรือร้างนั้น และก็การปรากฏตัวของเด็กชายลึกลับที่รอดตายคนเดียวบนเรือ ก็ยิ่งสร้าวความตื่นตระหนกแล้วก็ต้านทานจากผู้ไม่เห็นพ้องกับกัปตันเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยวิธีการเล่าที่ตัดภาพกระโจนผ่านไปๆมาๆเสมอเหมือนคนเคลิ้มใส่ฉากเรื่องดกินจริงบ่อยไปอย่างไม่สอดคล้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน จนกระทั่งควรต้องคิดไปว่านี่เป็นความทรงจำจริงๆหรือเพียงแต่จิตฝันของเด็กสาวที่มีทั้งฝันร้ายรวมทั้งสิ่งมุ่งมาดอยากให้เกิดขึ้นปะปนจนกว่าแยกไม่ออก ซ้ำภาพสีแล้วก็ขาวดำยังถูกใช้ขับเน้นอีกทั้งความงดงามของภาพรวมอีกทั้งหวนห้วงสำนึกหนึ่งในอดีตแสนไกลได้อย่างพอดิบพอดี

มันทำให้การดูหนังเรื่องนี้เราต้องมีทั้งสมาธิรวมทั้งความรู้ความเข้าใจในการเสนอพอเหมาะพอควรมันอาจไม่ได้อาร์ตจัดจนกระทั่งถีบผู้ชมออกห่าง แต่ก็บางทีอาจไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็น “Drama movie” เบิกบานสำราญใจเต็มดูดที่ย่อยง่าย ถึงกล่าวว่าต้องเข้าใจว่ามันใช้กลเม็ดการเล่าที่แปลกนิดหน่อย ที่ถ้าพยายามไปเข้าใจทุกอย่างที่มันไม่เล่าเยอะแยะไปก็บางครั้งก็อาจจะล้าสมองเหมาะเจาะ

คดีดังที่กล่าวถึงแล้วได้รับความพึงพอใจจากคนทั่วทั้งโลกจนตราบเท่าถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในหลายครั้ง จนกว่าในปี 2565 นักเขียนบทเลื่องลือ ไรอัน เมอร์ฟี่ ได้มาถ่ายทอดกรรมวิธีเล่าของเหตุการฆ่าของฆาตกรต่อเนื่องได้อย่างมีสุนทรียภาพบน DAHMER Monster: The Jeffrey Dahmer Story (ผีสาง: เจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์) ฉายบนวิธีการ Netflixอีกทั้งอาจไม่ใช่แค่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่งแม้กระนั้นเป็นภาพรวมของการบ้านการเรือนโลก

ซีรีส์เล่าของการขัดกันระหว่างคน ทั้งชนชั้นเดียวกันแล้วก็ต่างชนชั้น และก็การไม่รู้เรื่องกันของแต่ลำแหน่งหน้าที่บนเรือได้อย่างน่าติดตาม และจากนั้นก็ยังเชิญคิดถึงปัญหาในโลกข้อเท็จจริง จากที่มือเขียนบทอย่างฟรีเชได้เกริ่นไว้ว่าซีรีส์นี้เป็นการนำเรื่องราวของปัญหาผู้ลี้ภัยและผู้อพยพในยุโรป รวมถึงการบ้านการเรือนในเวทีนานาประเทศมาเป็นจุดเริ่มแรก เราก็เลยเห็นการเจรจาต่อรองการเอาตัวรอดของคนนานาประการวัฒนธรรมและภาษา

ส่วนอีกหนึ่งเสน่ห์อันเย้ายวนของซีรีส์ DAHMER – Monster: The Jeffrey Dahmer Story เป็นการเก็บรายละเอียดให้ครบทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในคดีการฆ่าของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ซึ่งสยองขวัญ เชื้อเชิญขนหัวลุก สมกับเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ยุคจริงๆดังต่อไปนี้ทางซีรีส์ดาห์เมอร์ก็ไม่พลาดเก็บความดราม่าเชื้อเชิญร้องไห้ตามฉบับสารคดี เปรียบเสมือนเรือเคอร์เบอรอสเป็นการเปรียบของเมืองนาวาที่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม

ก็เลยอาจบอกได้เต็มปากว่านี่เป็นซีรีส์ที่พอดิบพอดีกว่า ‘Dark’ ในด้านการมัดเงื่อน เข้าถึงได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่า แต่ว่าก็ไม่ได้ประนีประนอมอย่างมากจนกระทั่งไม่มีเสน่ห์ แน่ใจว่าผู้ที่ดูเหมือนยังมีหลายองค์ประกอบที่ทำให้สมองจำเป็นต้องทำงานผูกเรื่องไปด้วยแบบพอเพียงครึกครื้นเหมือนเล่นบันไดงูที่จะจำต้องจำว่าตกช่องนี้จำต้องไปโผล่ที่ช่องนั้น ซึ่งยังไม่เข้าขั้นปวดกบาลนัก

ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่จุดที่น่าชมเชยไปเสียหมด แม้กระทั่งชื่นชอบหลายมุกที่ซีรีส์ใช้เอามากๆในการตรึงเราให้สยองขวัญรวมทั้งรอมองหาปัญหากับคำตอบ ถึงแม้ว่ามันก็ชวนระลึกถึงงานไซไฟหลายๆชิ้นที่โดนจับนั้นนิดนี่หน่อยมาทั้งยัง ‘Westworld’ ซีซันแรก บรรยากาศกดดันของคนใน ‘The Mist’ (2007) หรือพวกมุกหนังจิตวิทยาจริง-ลวงอย่าง ‘Shutter Island’ (2010)

ของ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์: การฆ่าทารุณ เริ่มที่การบอกเล่าเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง เจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ สวมบทโดย อีวาน ปีเตอร์ส (Evan Peters) ผู้ฆ่าของเหยื่อบริสุทธิ์จำนวน 17 ราย ซึ่งมีอีกทั้งเด็กชายวัยรุ่นแล้วก็ชายหนุ่มรวมอยู่ด้วย ต่อจากนั้นก็เลยนำเนื้อของเหยื่อมากินอปิ้งโหดเหี้ยม ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1978 – 1991

เบื้องหลังเหตุการฆาตกรรมอีกทั้ง 17 รายของเจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ ตลอดกว่า 10 ปีจะเล่าถึงวิถีชีวิตของเหยื่อแล้วก็ชุมชนที่ถูกปล่อยทิ้ง อันเป็นผลมาจากการเหยียดสีผิว แล้วก็ข้อผิดพลาดในวงการตำรวจที่ปล่อยให้ฆาตกรต่อเนื่องลอยนวลมาได้กว่าทศวรรษสารคดี DAHMER – Monster: The Jeffrey Dahmer Story ก็เลยย้ำการซ้ำเติมเรื่องราวต่างๆ

แม้ฝั่งตะวันตกจะทำความเข้าใจเรื่องนี้กันธรรมดาแม้กระนั้นหลายประเทศก็ไม่ได้รู้จักดี แน่ใจว่าบางคนคงไม่รู้เรื่องเมื่ออยู่ๆดาราหนังก็เปรยขึ้นมา แถมยังเป็นหัวใจหนึ่งสำหรับเพื่อการอธิบายเรื่องราวต่างๆด้วย โดยมีพี่ชายอีกทั้ง 2 คนของเด็กคนหนึ่งเป็นผู้ส่งเสริมหนทางในเหตุความอลหม่านครั้งนี้และต้นเหตุและจากนั้นก็ผลพวงที่เกิดจากเจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุรวมถึงผลในตัวเอง

รีวิว Athena อเธน่า Athena

เล่าราวเกี่ยวกับสถานะการณ์เหตุความสับสนวุ่นวายที่แพร่ไปบานปลายขึ้นในพื้นที่เมืองของประเทศฝรั่งเศส โดยมีจุดเริ่มต้นจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาที่มีภาพคลิปหลุดแชร์ออกไปในเครือข่ายสังคม ประสบพบเห็นเด็กวัยหนุ่มถูกกลุ่มชายในชุดชุดที่ใส่แต่งกายเจ้าหน้าที่รัฐ “policeman” รังแกแล้วก็ปล่อยเสียชีวิต เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้คนในรวมกันอเธน่าลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องความถูกต้อง

เริ่มต้นใดๆผู้แต่ง “review” นี้บางครั้งก็อาจจะต้องขอออกตัวก่อนว่าอาจจะไม่ค่อยมีความชำนาญกับหนังฝรั่งเศสมากเท่าไรนัก แม้ว่าจะเคยแวะเวียนไปดูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ชำนาญแล้วก็คลุกคลีกับวงการหนังที่ตรงนั้นสักเท่าไหร่ ธรรมดานั้นเราถูกใจได้เห็นหนัง “France” ออกแนวดราม่าที่มีกลิ่นเสียดสีสังคมรวมทั้งการบ้านการเรือนอยู่หลายหน แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ก็จัดมาในวิถีทางนั้นเต็มๆ

ตลอดจนการประยุกต์เอาปรัชญาเรื่องถ้ำของเพลโต (The Allegory of the Cave) ที่เทียบว่านักโทษที่โตมาโดยเห็นเงาทอดผ่านเข้ามาในฝาผนังบ้านถ้ำก็อาจเข้าใจว่าเงานั้นเป็นโลกภายนอกทั้งหมด ด้วยเหมือนกันหากไม่มีวิชาความรู้แล้วก็มุมมองที่กว้างเราก็อาจคิดว่าโลกที่มองเห็นอยู่เป็นทั้งสิ้นซึ่งอาจไม่เป็นโลกจริงๆก็ได้ เมื่อซีรีส์ปรับใช้ก็เป็นส่วนที่แข็งแรงแต่ว่าก็ควรแทรกคำอธิบายที่กระจ่างกว่านี้อีกสักนิดสักหน่อย

ผลงานของผู้กำกับ “โรแมง กาฟรัส” ที่ควรต้องบอกว่าไม่ค่อยจะรู้จักกับผลงานชิ้นนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าเขาเองก็พึ่งดูแลหนังยาวมาก่อนหน้านี้แค่เพียง 2 เรื่อง อาจจะคุ้นๆกับ The World Is Your ถึงแม้ว่าก็ยังไม่มีวิถีทางได้ดู สไตล์งานของ “director”รายนี้ถูกใจถือเอาอกเอาอกเอาใจข้อความสำคัญแนวดราม่าอาชญากรรมมาเล่นอยู่เป็นประจำๆแล้วก็การมาของ อเธน่า ก็ดูเหมือนกับว่าจะยังไม่ทิ้งลวดลายแบบเฉพาะของเขาตัวอย่างเช่นเดียว

ผู้กำกับที่รับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้ จัดว่าหยอดกล่าวหาคิดแนวขัดแย้งกันกับด้านมีความเสี่ยงต่ออันตรายเปราะบางเกี่ยวกับวงการผู้ทักษ์ความสงบราษฎร์ของประเทศฝรั่งเศสใส่เข้ามา ซ้ำยังแทรกสอดข้อความสำคัญการขัดกันภายในประเทศของประเทศฝรั่งเศส ที่บอกให้เห็นถึงปัญหาความไม่เหมือนและก็การใส่ใจทางด้านการเมืองในแนวคิดที่ต่างกัน ซึ่งเป็นเงื่อนสะสมในสังคมบ้านเขามายาวนานตั้งแต่ในอดีต

หนังเรื่องอาจจะมีความยาวแค่เพียงไม่ถึงชั่วโมง ถึงแม้ก็ค่อนข้างจะจัดเต็มกับการใส่ธีมเทศกาลท้ายปีเข้าไปได้อย่างสดชื่น ถึงเรื่องนี้เราจะได้แลเห็นดาราที่รู้จักดีกันเป็นอย่างดี แม้ว่าติดอยู่แรกเตอร์ในหัวข้อนี้นั้นแพ็กคู่มา 2 คนโน่น ก็คือ เดฟ บอทิสตา กับ ปอม คลีเมนเทียฟฟ์ ที่พวกเขามารับบทเป็น แดร็กซ์ กับ แมนทิส ที่ถือได้ว่าเป็นตัวละครมีซีนแบบเต็มตา