“เด็กหญิงนักเที่ยว” “แมวสีขาว” “เก้าอี้ตัวน้อย” “กุญแจไขประตู” เป็น Keyword 4 คำของภาพยนตร์เรื่อง Suzume no Tojimari ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของ Shinkai Makoto เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเสี่ยงอันตรายรวมทั้งเติบโตของเด็กหญิงชื่อ Iwato Suzume ที่จำต้องออกเดินทางเพื่อตามปิดประตูแห่งมหันตภัยของโลกนี้ สถานที่ต่างๆในเรื่องล้วนได้แรงจูงใจมาจากโบราณสถานรวมทั้งสถานที่รกร้างทั่วญี่ปุ่น ยืนยันว่าเพื่อนฝูงๆจะตื่นตาตื่นใจและถูกใจกับความงดงามของแต่ละฉากที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อนแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้ลุ้นและก็เป็นกำลังหัวใจให้ Suzume ที่จำเป็นต้องเดินทางท่องในอดีตกาล เดี๋ยวนี้ รวมทั้งอนาคต ensemble stars เผชิญและก็ลาจากกับผู้คนมากไม่น้อยเลยทีเดียว พบเจอกับเรื่องคาดไม่ถึงรวมทั้งความลำบากตรากตรำ ดูๆไปก็ราวกับเป็นภาพซ้อนทับกับชีวิตประจำวันของพวกเราที่จำต้องเจอกับความรู้สึกวิตกกังวล งงงัน ไม่เป็นตัวเองอยู่เสมอเวลาเลยจ้าขา
เหตุผลที่ Shinkai Makoto เลือก Hara Nanoka มารับบทนำ ensemble stars
Shinkai Makoto ผู้กำกับของเรื่องเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า Hara Nanoka มีน้ำเสียงรวมทั้งแสดงออกความรู้สึกได้ใกล้เคียงกับนักแสดงเยอะที่สุด ถือเป็นความสามารถพิเศษที่หาได้ยาก เขาเลยแน่ใจว่า Hara Nanoka จะสามารถสอดใส่ความรู้สึกที่สดใหม่ ส่องสว่างดังวินาทีที่ก้อนเมฆดกถูกขจัดออกไปจากฟ้า
คณะทำงานผู้ทุ่มเทให้กับ Suzume no Tojimari ensemble stars
ภาพยนตร์เรื่อง Suzume no Tojimari จะเริ่มฉายที่ญี่ปุ่นวันที่ 11 พ.ย. 2022 นี้ โดยมี Shinkai Makoto เป็นผู้แต่ง เขียนบท ข่าวใหม่ล่าสุดการ์ตูน แล้วก็กำกับภาพยนตร์ ในการดีไซน์ตัวละครได้ Tanaka Masayoshi อนิเมเตอร์มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นมารับหน้าที่ ประกอบกับ Tsuchiya Kenichi ผู้กำกับภาพ แล้วก็ Tenji Takumi ผู้กำกับข้างศิลป ทีมงานประสิทธิภาพจัดเต็มขนาดนี้ แทบห้ามใจรอดูไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ
ต่อไปนี้มากล่าวถึง “Jujutsu Kaisen The Movie 0” ที่กำลังจะฉายลงจอภาพยนตร์บ้านเราวันที่ 23 มิถุนายนตร์นี้กันเลยดีกว่า ว่าเพราะอะไรภาคนี้ก็เลยได้รับกระแสตอบรับที่ญี่ปุ่นอย่างล้นหลาม มีอะไรน่าสนใจบ้าง? แล้วคนที่ไม่เคยมองหัวข้อนี้มาก่อนจะรู้เรื่องกับเขาไหม? เราจะมาไขข้อข้องใจส่วนนี้ ให้สหายๆได้ตัดสินใจกันจ้ะ
สำหรับ “Jujutsu Kaisen The Movie 0” นี้บอกได้เลยว่ากระแสตอบรับที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นกล่าวได้ว่าทำรายได้แบบถล่มทลาย ensemble stars ชนิดที่ทำให้สงสัยได้เลยว่า “ขนาดนั้นเลยหรอ?” “สาวก JJK เยอะขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?” เนื่องจากว่าสามารถปัดกวาดรายได้กว่า 1,622 ล้านเยน และมีปริมาณผู้ชมมากถึง 1,136,000 คนเลยทีเดียว ถัดมาเรามาดูเหตุผลที่ว่าทำไม มูฟวี่ภาคนี้จึงน่าดูกันเถอะ
1. เหตุในมูฟวี่เกิดขึ้นก่อนภาคหลัก ทำให้เข้าใจภูมิหลังของตัวละครแล้วก็เรื่องราวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เนื้อเรื่องในมูฟวี่ภาคนี้ เกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเรื่องราวหลักที่อยู่ใน Jujutsu Kaisen ฉบับมังงะและอนิเมะ เรียกว่าเป็น ต้นกำเนิดของเรื่องก่อนที่จะผู้แสดงนำอย่างอิตาโดริ ยูจิ จะปรากฎตัวเสียอีก แล้วก็ด้วยความที่เป็นรายละเอียดที่แตกต่างจากฉบับมังงะและก็อนิเมะแต่ว่าสามารถดำเนินเรื่องกระทั่งจบได้ภายในมูฟวี่ตอนเดียว แม้คุณจะไม่รู้จะหัวข้อนี้มาก่อน ก็ยังสามารถสนุกสนานไปกับมูฟวี่ภาคนี้ได้ง่ายๆ แถมถ้าหากต้องการติดตามต่อก็ยังสามารถไปดูฉบับอนิเมะได้แบบที่ไม่งงมากอีกด้วย หรือถ้าหากผู้ใดที่เคยมองเนื้อเรื่องหลักมาก่อน ก็จะยิ่งเข้าใจเรื่องราว ความเกี่ยวเนื่องตัวละครใน Jujutsu Kaisen ได้ลึกซึ้งเยอะขึ้น
2. ดารานำชายของเรื่องที่ไม่เคยปรากฎในอนิเมะมาก่อนคนนี้ เขาคือผู้ใดกัน?
อคคตสึ ยูตะ
อคคตสึ ยูตะ ชายปริศนาผู้ไม่เคยปรากฎตัวในเนื้อเรื่องหลัก
เท่านี้ก็เชื้อเชิญสงสัยอยากรู้จนอยากจะไปดูแล้ว เพราะว่าในมังงะหรืออนิเมะนั้นมีการพูดถึงชื่อ “อคคตสึ ยูตะ” อยู่บ้าง แม้กระนั้นไม่เคยมีใครได้เห็นเขาจริงๆจังๆสักที น่าจะมีนักอ่านไม่น้อยที่สงสัยว่าเขาเป็นคนไหนกันนะ ถึงจะดูเป็นคนสำคัญ แต่กล่าวมาแค่นั้นเองหรือ? ติดเทรนสุดมันส์!! รวมทั้งด้วยความที่ตัวเอกหลักในเรื่องอย่าง อิตาโดริ ยูจิ ไม่ได้มาอยู่ในมูฟวี่ แต่กลับเป็น อคคตสึ ยูตะ ชายปัญหาผู้ติดอยู่ในความสงสัยของใครหลายๆคนมาปรากฎตัวในฐานะตัวนำหลักของมูฟวี่ภาคนี้ ensemble stars ทำให้ได้รับความสนใจพอเหมาะพอควร
ในภาคนี้จะเอ่ยถึงเรื่องราวของ อคคตสึ ยูตะ ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่สถานศึกษาไสยเวท ว่ามีเรื่องมีราวราวที่ไปที่มาอย่างไรบ้าง ตัวยูตะเองที่เคยไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เพราะอะไรถึงถูกชวนให้เข้าสถานที่เรียน แล้วบทสรุปท้ายที่สุดของตัวเขาเองจะเป็นอย่างไร พวกเราจะได้รู้กันใน Jujutsu Kaisen The Movie 0
3. ถึงจะเกิดเรื่องเกี่ยวกับคุณไสย วิญญาณ คำสาปแช่ง แต่ว่าไม่ใช่แนวสยองขวัญนะ!
ถึงจะเกริ่นไปว่าเกิดเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ใช้คุณไสย, พลังไสยเวท, วิญญาณคำแช่ง, นักแช่งชักหักกระดูกต่างๆสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดูอนิเมะประเด็นนี้มาก่อน บางทีอาจจะคิดว่าเพราะอะไรเรื่องราวมันดูดาร์คและน่าสยองแบบงี้ แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วไม่ใช่เลยจ๊า อิมเมจของหัวข้อนั้นค่อนข้างจะต่างจากความหมายที่พวกเราเข้าใจกันมากมายทีเดียว หลักๆแล้วจะเป็นเรื่องในวัยเรียนคล้ายกับเรื่องอื่นทั่วๆไป แม้กระนั้นต่างกันตรงที่เป็นกลุ่มนักเรียนที่มีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการใช้วิชาคุณไสย มาเข้าชั้นเรียนในสถานศึกษาไสยศาสตร์เพื่อศึกษาการใช้พลังของตนเองในการขจัดวิญญาณคำแช่ง ไปพร้อมๆกับการปฏิบัติภารกิจเพื่อได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้คุณไสยในระดับค่อนข้างสูงอีกด้วย
นอกจากนั้น แนวความคิดเรื่องคำสาปแช่งที่เกิดขึ้นจากความนึกคิดด้านลบของมนุษย์จนนำมาซึ่งการก่อให้เกิดเป็นวิญญาณคำสาปออกฆ่าคน หรือการสาปแช่งคนอื่นๆโดยที่ไม่ตั้งใจนั้นเป็นแถวคิดที่แปลกใหม่ แต่ก็มีส่วนเชื่อมโยงกับสังคมปัจจุบันอยู่พอสมควร ซึ่งจะทำให้เราสามารถคิดภาพตามได้ และทำให้อินไปกับเนื้อเรื่องได้มากขึ้นอีกด้วย
และก็ยังบอกได้เลยว่า ทุกตัวละครนั้นมีเสน่ห์แล้วก็ความเท่ รวมถึงเรื่องราวความฟั่นเฟือนเกินคาด ทำให้ประเด็นนี้สนุกแล้วก็น่าติดตามต่ออย่างมากมาย พวกเราจะได้เห็นทั้งยังมิตรภาพรวมทั้งการเติบโตของผู้แสดงที่กำลังทำตามจุดมุ่งหมายของตัวเอง ทำให้อดเอาใจช่วยมิได้เลยล่ะจ้ะ ensemble stars
4. อาจารย์โกะโจ ผู้เป็นตำนานที่พร้อมจะตกทุกคนเข้าด้อม
โกะโจ
โกโจะ ซาโตรุ อาจารย์สุดหล่อโก้เก๋ที่พร้อมจะตกทุกคนเข้าด้อมๆ
“เนื่องจากผมเก่งอย่างไรล่ะ” ประโยคคำกล่าวมั่นหน้าจนน่าหมั่นไส้ แต่เหล่าสาวก JJK ต่างก็ให้อภัยเนื่องจากว่าพี่มึงหล่อโก้แล้วก็เก่งสุดๆระดับหาผู้ใดทัดเทียมจริงๆกับอีกผู้แสดงที่มีชื่อว่า “โกะโจ ซาโตรุ” คนนี้ นอกจากสีผมและสีตาแล้ว ยังมีความรู้ที่สะดุดตา ก็เลยทำให้เป็นเคารพนับถือของผู้เรียนทุกคน (รึเปล่า?) ถึงคุณครูโกะโจสุดหล่อและก็แสนเท่คนนี้จะบ้ากระทั่งผู้เรียนบางคนยังเอือมสุดจะทน แต่เขาก็เป็นคนที่หวง แล้วก็ห่วงศิษย์ของตนเองแบบสุดๆเขาคนนี้เองก็มีเป้าหมายสูงสุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงระบบสังคมของผู้ใช้คุณไสยให้ดียิ่งขึ้น ก็เลยเฝ้าสอนลูกศิษย์ให้โตมาในทิศทางที่ถูก (เท่มากใช่ไหมล่ะ!) สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทราบจักกับ Jujutsu Kaisen สามารถไปทำความรู้จักกับอาจารย์โกะโจในภาคนี้ก่อนได้จ้ะ
ได้ทราบจักกับ “Jujutsu Kaisen” หรือ “มหาเวทย์ผนึกมาร” กันไปคร่าวๆพอหอมปากหอมคอแล้ว บอกเลยว่าหากคุณได้ไปดูมูฟวี่ภาคนี้จะยิ่งทำให้ได้รู้จะกับตัวละครอื่นๆในมุมมองที่แตกต่างจากภาคอนิเมะกันอย่างแน่นอน นอกเหนือจากนั้น มูฟวี่ภาคนี้ได้รับแรงส่งเสริมหลักจากบริษัทผลิตอนิเมชั่นอย่าง “MAPPA” ทำให้ได้ภาพงาม ประสิทธิภาพสูง ช่วยเย้ายวนใจให้ฉากต่างๆมีเสน่ห์เยอะขึ้น รวมทั้งเพลงประกอบที่เหมาะสมกันกับเรื่องราวแบบสุดๆซึ่งเหตุผลกลุ่มนี้เองที่ทำให้ Jujutsu Kaisen The Movie 0 นี้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องเลิศที่น่ากล่าวยกย่องเป็นอย่างยิ่งเลย ensemble stars
ความน่าสนใจของ Gundam SEED
Gundam SEED 3 Kira Yzak
เงื่อนของสงครามใน Gundam SEED คือแนวคิดว่า “ไม่ใช่เรา ก็จะต้องเป็นพวกมัน” แบบ Binary Division แบ่งฝักฝ่ายทั้งหมดทุกอย่างเป็นเพียงแต่ 2 ข้าง หากเป็น Naturals ก็จำเป็นต้องไม่อยู่ร่วมโลกกับ Coordinators อะไรทำนองนี้
การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจึงจะต้องอาศัยแนวความคิดที่ 3 ซึ่งในเรื่องราวก็จะมีความเห็นว่าควรเป็นชาว Naturals ที่เคยรู้จักหรือใช้วันเวลาร่วมกับชาว Coordinators หรือ ควรจะเป็นชาว Coordinators ที่เคยรู้จักหรือมีมิตรภาพอันดีกับชาว Naturals ที่จะเป็นฝ่ายสร้างความเข้าอกเข้าใจระหว่างกันและกันให้มากมาย
เพราะในเรื่องจะก่อให้เห็นว่าทั้งยังฝ่าย Naturals รวมทั้ง Coordinators ต่างก็รับรู้ว่าอีกข้างเป็น “ซาตานหิวเหลือด” ที่ฆ่าคนของเชื้อสายตัวเองไปอย่างยิ่ง เพราะว่าการศึกดำเนินมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ทั้ง 2 ข้างล้วนพุ่งเข้าสนามรบเพื่อฆ่าคนที่ตัวเองไม่รู้จัก ด้วยต้นเหตุที่ทุกคนก็ลืมไปหมดแล้ว รู้สึกตัวอีกครั้งก็ทราบแม้กระนั้นจำเป็นต้องฆ่าๆๆพวกมันแค่นั้น
คนที่จะหยุดการทำศึกนี้ได้ จึงจะต้องเป็น Kira Yamato ผู้ซึ่งมีมิตรอยู่ทั้งในกรุ๊ป Naturals และในกรุ๊ป Coordinators รวมถึงตัวละครหลักอื่นๆอีกมากมายที่จำเป็นต้องมาร่วมเคราะห์กรรมกับ Kira ในการหยุดการรบนองเลือดไม่รู้จักจบสิ้นนี้ และก้าวข้ามแนวความคิด “Either…or (ไม่ใช่พวกเรา ก็ควรจะเป็นพวกมัน)” ไปสู่แนวคิดที่สร้างลู่ทางที่ 3, 4, 5 ได้ ไม่จำเป็นต้องแบ่งทุกอย่างให้เหลือแค่ 2 ฝ่าย แต่ว่าสามารถสร้างความเข้าอกรู้เรื่องระหว่างกันและกัน รวมทั้งอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้กว่าที่เคยเป็นมา